
The Hunt จับ ฆ่า ล่าโหด
THE HUNT เป็นหนังอีกเรื่องจากบ้าน Blumhouse ที่เล่นประเด็นการเมืองและชนชั้นอย่างตลกร้ายและโหดเลือดสาด โดยบทภาพยนตร์ THE HUNT ของ Nick Cuse และ Damon Lindelof นี้ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่องสั้น The Most Dangerous Game (ปี 1924) ของ Richard Connell ที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับคนรวยล่าคนจนเพื่อเกมกีฬา

หนัง THE HUNT เล่าเรื่องชนชั้นแรงงานหรือคนบ้านนอก (เราใช้คำนี้ตามที่ในหนังเค้าใช้) จำนวน 12 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนขาวและค่อนข้าง conservative (ภาษาอังกฤษเรียก “redneck”) ถูกลักพาตัว และตื่นขึ้นมากลางป่าแห่งหนึ่งอย่างงง ๆ ก่อนที่จะรู้ตัวว่าพวกเขากำลังถูกไล่ล่าโดยพวก liberal elite (หรือ “blue blood”) นำโดย Athena (Hilary Swank นักแสดงออสการ์นำหญิงสองสมัย) แต่การล่าครั้งนี้มันไม่ง่าย เมื่อ Crystal (Betty Gilpin จาก Isn’t It Romantic) หนึ่งในคนที่ถูกล่า กลับมีสกิลการต่อสู้และเคยเป็นทหารเก่า ทำให้ผู้ล่ากลายเป็นผู้ถูกล่าด้วยเช่นกัน ในเวลาประมาณ หนึ่งชั่วโมงครึ่ง หนังดำเนินเรื่องอย่างรวดเร็ว และมักมีความรุนแรง ชนิดที่เราต้อง ทำหน้าเหยเก/ปิดตา/อ้าปากค้าง/เอามือทาบอก แบบมิทันได้ตั้งตัวอยู่บ่อย ๆ แต่ถึงแม้หน้าหนังจะเหมือนหนังไล่ล่าฆ่าฟัน แต่ความโหดหรือฉากแอ็คชั่นเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เนื้อหาจริง ๆ ของหนังเต็มไปด้วยไดอะล็อกที่ตลกร้าย เสียดสีการเมือง เพศ สีผิว เชื้อชาติ พอ ๆ กับพล็อตที่เน้นเสียดสีระบบชนชั้น และมี refer ถึง “Animal Farm” แต่กระนั้น สำหรับเรา THE HUNT เป็นหนังที่ดูฆ่าเวลา และไม่จำเป็นต้องดูก็ได้ เพราะยังห่างไกลจากคำว่ามาสเตอร์พีซ และยังถือว่ากลาง ๆ สำหรับมาตรฐานหนัง Blumhouse

เรื่องย่อ The Hunt จับ ฆ่า ล่าโหด
The Hunt จับ ฆ่า ล่าโหด เล่าเรื่องของชนชั้นสูงและกลุ่มคนรวยที่จับคนธรรมดามาฆ่ากันเล่นให้ตัวเองดู ก่อนที่ตัวเองจะถูกพลิกมาถูกตามล่าเอาซะเอง เป็นหนังระทึกขวัญตลกร้ายที่ไม่มีอะไรสมเหตุสมผลแต่ทุกอย่างกลับสมเหตุสมผลในตัวมันเองมากๆ
บอกตรงๆพีคมากสนุกมากโหดมากสุดมากตื่นเต้นมาก ตั้งแต่ตอนแรกไปถึงตอนจบเลย หนังได้นักแสดงนำเป็นเอ็มม่า โรเบิร์ตมาแสดงด้วยทำให้เนื้อเรื่องดูน่าสนใจและติดตามมากขึ้น sound effect ที่ใส่เข้ามาในเรื่องก็ดีมาก ระทึกขวัญและลุ้นระทึกไปกับตัวละครไปด้วยว่าพวกเธอหรือพวกเขาจะตัดสินใจทำอะไรต่อไปกันในเรื่อง และหนังโหดเรื่องนี้สุดจริงทั้งการวิ่งหนีเอาชีวิตรอด การยิงกัน การรัวกระสุนอย่างโหด การวางกับดัก และการเหยียบระเบิดตาย คือโหดมากๆ และสนุกมากๆ จนผู้เขียนถึงกับถามตัวเองเลยว่าเราพลาดอะไรไปที่ไม่ได้ดู จริงๆหนังเรื่อง The Hunt ถือเป็นหนึ่งในหนังโหดสยองขวัญที่ผู้เขียนดองมาสักพักแล้ว
ได้หยิบมาดูครั้แรกก็ตอนที่เพิ่งลง Netflix นี้แหละ และต้องขอบอกก่อนว่าสุดจริง สนุกจริง โหดจริง ระทึกจริง และตื่นเต้นจริง สถานที่ในป่าและรั้วกลางที่โล่งและชายหาดริมทะเลก็สมจริงแบบโคตรสมจริงเลย ใครที่ชอบหนังแนว ฆ่ากันตายโดยไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น แค่มีคนยิงกันและคนตายแบบโหดๆในเรื่อง หนังเรื่องนี้น่าจะตอบโจทย์พอสมควรนะ เพราะวิธีการตายของแต่ละคนในเรื่องโหดใช้ได้เลย และ acting การแสดงของนักแสดงทั้งสีหน้า ท่าวิ่ง การเอาชีวิตรอด และสายตาที่บีบคั้นคือเรียล โคตรเรียล บทพูดและวิธีการดำเนินเนื้อเรื่องก็สนุก สมเหตุสมผล และเพราะเวลาที่จำกัด มองว่าหนัดงดำเนินเนื้อเรื่องได้รวดเร็วเหมือนกันนะ อาจรู้สึกเสียดายเพราะอยากเก็บรายละเอียดในเรื่องเพิ่ม แต่ไม่น่าเบื่อเลย หนังสนุกมาก เพลงที่ใส่เข้ามาก็สนุกมากๆ แถมหนังระทึกขวัญตลกร้ายเรื่องนี้ยังมีการนำเอ็มม่า มาแกงคนดูอีก ฉากที่ผู้เขียนชอบและประทับใจมีหลายฉากจนเลือกไม่ถูกเลยว่าฉากที่ชอบที่สุดจะเป็นฉากไหนดีในหนังระทึกขวัญเสียดสีความจริงของสังคมเรื่องนี้

สรุปรีวิวหนัง The Hunt จับ ฆ่า ล่าโหด
รีวิวหนัง The Hunt จับ ฆ่า ล่าโหด เรื่องราวกลุ่มคนรวยที่จับคนไร้ทางสู้มาเพื่อไล่ล่าและฆ่าเพื่อความสนุก แต่แล้วกลับมีเหยื่อคนหนึ่งที่จะไม่ยอมถูกล่าและกลับกลายเป็นฝ่ายที่จะไปล่าเสียเอง จึงทำให้พวกคนรวยถึงกับต้องขวัญผวา และสุดท้ายก็ทำให้เหยื่อผู้นั้นได้ล่วงรู้ถึงเบื้องหลังว่าแท้จริงแล้วกลุ่มคนรวยพวกนี้จับตัวเหยื่อทุกคนมาเพื่ออะไร
คริสตัลคริสตัลอาธีน่ารีวิว : พูดได้คำเดียวว่า ชอบมากๆ เพราะโดยส่วนตัวแล้วเราเป็นคนที่ชอบดูหนังหรือซีรีส์แนวเอาตัวรอด ชิงไหวชิงพริบบวกแอ็คชั่นอยู่แล้ว ไม่ว่าจะหนังหรือซีรีส์ชาติไหนขอแค่เป็นแนวนี้ก็ดูหมด ที่ชอบที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นตัวเอกอย่าง คริสตัล ที่รับบทโดย Betty Gilpin ที่เปิดตัวมาแบบโนสนโนแคร์ ชั้นไม่แคร์เธอจ้า ไม่ว่าใครจะทักจะพูดจะวิ่งไปไหนอะไรยังไงเธอก็ไม่สน ซึ่งในตอนแรกฉากเปิดจะไม่ได้เดินเรื่องด้วยเธอเป็นคนแรก แต่ตอนแรกที่เปิดตัวเธอในหนังเราคิดว่าเธอคือตัวประกอบ เพราะเธอคือคนที่ 2 ที่โผล่มาในฉากที่เหยื่อถูกจับมาและโผล่มาเพื่อตัดผมไปวางบนใบไม้ เธอทำไปทำไม และพ่อก็คือผู้ที่ชี้ทางสว่าง ที่เธอทำแบบนั้นเพราะเธอกำลังหาทิศทางนั่นเอง
เมื่อดำเนินเรื่องไปเรื่อย ๆ ก็ทำให้เราได้รู้ว่าที่แท้พวกตัวละครอื่นที่วิ่งเข้าไปแย่งชิงอาวุธและกล้องจับบ่อย ๆ นั้นเป็นเพียงแค่ตัวประกอบ จนกระทั่งพี่คริสตัลเธอออกมาอีกครั้งในช่วง 20 นาทีกว่า ๆ แล้วต้องพูดเลยนะว่าสกิลการต่อสู้ของเธอไม่ธรรมดา เพราะเธอเคยเป็นทหารผ่านศึกที่ไปรบที่อัฟนิสถาน
ฉากต่อสู้นอกจากนี้ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือเรื่องความฮาความโบ๊ะบ๊ะของตัวละครในเรื่อง โดยเฉพาะมุกที่ปล่อยออกมาได้ถูกเวลาถูกจังหวะถูกตอนมาก ถึงจะบอกว่านางเอกของเราเคยไปรบทำศึกมาก่อนแต่นางก็แอบฮาไม่เบาทั้งสีหน้าท่าทางเวลาที่พูดคุยหลังจากช่วงกลางเรื่องไป หรือตอนที่คุยกับตัวร้ายในตอนจบก็คือกวนประสาทสุด ๆ นอกจากนี้ถ้าอ่านซับดูดี ๆ ก็จะมีการปล่อยมุกออกมาในบางช่วงซึ่งก็สามารถเรียกเสียงหัวเราะได้เป็นอย่างดี ทำให้เนื้อเรื่องดูไม่ตึงเครียดจนเกินไป แต่ถ้าจะพูดถึงฉากเลือดสาดหรือความโหดแล้วก็ทำออกมาได้ดิบโหดสะใจพอสมควร เลือดเป็นเลือด ไส้เป็นไส้ บอกได้เลยว่าเรื่องนี้สนุกครบรสและพลาดไม่ได้เด็ดขาด
สุดท้ายใครที่ยังไม่เคยดูภาพยนตร์เรื่องนี้ก็แนะนำว่าต้องไปรับชมให้ได้นะคะ ซึ่งในตอนนี้ภาพยนตร์เรื่องนี้กำลังติดอันดับภาพยนตร์ 10 อันดับสูงสุดในไทยอีกด้วย โดยสามารถรับชมผ่านทาง Netflix ได้เลย
อ้างอิง
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง
กำกับโดย : Craig Zobel
สร้างโดย : Blumhouse Productions
ผลิตโดย : Damon Lindelof, Jason Blum
นำแสดงโดย : Betty Gilpin, Emma Roberts, Hilary Ann Swank, Justin Scott Hartley, Isaac Barinholtz, Ethan Suplee
ภาพรวมหนัง
รับชมตัวอย่างหนัง จับ ฆ่า ล่าโหด
ติดตามรีวิวหนังเพิ่มเติมได้ที่ : เว็บรีวิวหนังmoviesreview4k
ติดตามจัดอันดับหนังได้ที่ : 10หนังสยองขวัญ
รับชมหนังฟรีออนไลน์ได้ที่ : The Hunt
เพิ่มเติมรีวิวหนังน่าดู Till Death จนกว่าจะตาย